บทความยั่วน้ำลาย



วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อิ่มเอม 'อาหารสเปน'



เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องอาหารทาปัส (Tapas) ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบแล้วว่าเป็นอาหารอะไร ความจริงแล้วอาหารทาปัส ผมกินมาเป็นเวลานานมากครับ โดยเฉพาะระหว่างที่ผมเขียนคอลัมน์นี้ ผมไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ผมจึงอยากเล่า ให้ฟังว่า ผมไปกินทาปัสที่ไหน มาบ้าง และจะเอาเรื่องของร้าน ที่ผมไปกินมาที่กรุงลอนดอนมาบอกเล่ากัน ซึ่งผมไปอยู่ เมื่อต้นปีนี้เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเห็นจะได้ มีเวลาว่าง ก็จะแวะไปกินเกือบทุกวัน จนกระทั่งอ้วนท้วนสมบูรณ์





หลากรสชาติ มากความอร่อย

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องอาหารทาปัส (Tapas) ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบแล้วว่าเป็นอาหารอะไร ความจริงแล้วอาหารทาปัส ผมกินมาเป็นเวลานานมากครับ โดยเฉพาะระหว่างที่ผมเขียนคอลัมน์นี้ ผมไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ผมจึงอยากเล่า ให้ฟังว่า ผมไปกินทาปัสที่ไหน มาบ้าง และจะเอาเรื่องของร้าน ที่ผมไปกินมาที่กรุงลอนดอนมาบอกเล่ากัน ซึ่งผมไปอยู่ เมื่อต้นปีนี้เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเห็นจะได้ มีเวลาว่าง ก็จะแวะไปกินเกือบทุกวัน จนกระทั่งอ้วนท้วนสมบูรณ์

ผมจะอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟังอีกครั้งหนึ่งนะครับ ว่า อาหารทาปัส คือ อาหารของสเปนที่ทำมาเป็นจานเล็ก ๆ คราวนี้ผมจะเล่าให้ฟังว่าผม ไปที่ลอนดอน 3-4 ครั้ง ก็แวะไปกินที่ร้านซึ่งผมจะพูด ถึง เป็นร้านเล็ก ๆ มีเคาน์เตอร์นั่งได้ 27 คนเท่านั้นเองครับ เมื่อได้ที่นั่งแล้วเราต้องนั่งรอ เขาจะเสิร์ฟอาหารทีละอย่าง ร้านนี้มีชื่อว่า บาร์ราฟีน่า (Barrafina) มีเชฟที่น่ารักมากครับ เป็นผู้หญิง เขาจะยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อเตรียมจัดอาหารให้เรา เวลาเราสั่งอะไรเขาไป

ที่ร้านนี้เมนูยาวมากเลยนะครับ เมื่อผมไปกินที่ร้านนี้แล้ว ต้องกลับไปกินอีก 4-5 ครั้งเห็นจะได้ ผมไปลอนดอนทีไรต้องไปทุกครั้ง บางครั้ง ไปกิน 1-2 ครั้งในเที่ยวหนึ่ง ผมจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับร้านนี้มาก ผมจะเล่าให้ฟังว่า ร้านนี้เป็นร้านอร่อยแต่ไม่ค่อยมีที่ นั่ง จึงต้องรีบไปยืนรอหน้าร้าน ตอนที่ผมไปเป็นช่วงหน้าหนาว อากาศหนาวมาก หิมะกำลังจะตก แต่ผมอดไม่ได้ เพราะความอยากกินผมใส่เสื้อโค้ตไปยืนรอจนตัวสั่นไปหมดเลยครับ

เมื่อเข้าไปด้านใน ก็ เริ่มสั่งอาหารจนกระทั่งฝรั่งเขา จำหน้าผมได้แล้วบอกผมว่า ผมสั่งมากเกินไปหรือเปล่า ผมตอบกลับไปว่าไม่เยอะเกินไปหรอก กินหมด ซึ่งครั้งนั้นผม ไปกับน้องชาย 2 คน แต่ว่าสั่งทีเดียว 10 อย่าง สิ่งแรกที่ผม สั่ง คือ กั้งฝรั่งอบซอสมะเขือเทศ มีน้ำมันมะกอกใส่เล็กน้อย ต้องกินด้วยมือนะครับ แล้วเราก็เอามากินกัน เขาเสิร์ฟขนมปังด้วยครับ โดยจะเสิร์ฟขนมปังกับน้ำมันมะกอกสด ๆ หอม อร่อยมากเลยครับ

เหลือบไปดูข้าง ๆ เห็นมี ไข่เจียวแบบสเปน ในกระทะเล็ก ๆ นะครับ โดยเขาจะโยนไปในเตาอบ ข้างในยัดไส้ด้วยเห็ด มีแฮม มีชีสอยู่ในนั้นครับ ผมบอกกับน้องว่า เราต้องกินกันสักจานหนึ่ง ตกลงผมสั่ง น้องผมก็เลยต้องกินตามไปด้วย อร่อยมาก ๆ เลยครับ

ยังมี นกกระทาอบ นะครับ เสิร์ฟมากับมายองเนส ที่ทำจากกระเทียม อร่อยมาก มีกระดูกที่ตะโพกกับขาเท่านั้นแต่ชิ้นเล็กมาก ๆ เขาเอาไปหมักกับเครื่องเทศ ไวน์แดง ถึงได้หอมหวนและอร่อยมาก จานต่อมาเป็น ปลาซาบะทอด ใส่น้ำมันมะกอก โรยด้วยเครื่องเทศ เกลือ กับพริกไทย แล้วนำมาวางบนสลัดมันฝรั่งครับ โดยสลัดมันฝรั่งนั้น มีเบคอนเป็นแผ่นหนา ๆ ที่ทอดกรอบเอามาวางไว้ด้านบน กินเข้าไปแล้วมีทั้งรสเค็ม เปรี้ยว หวาน มัน ครับ

อาหารจานที่ผมชอบมาก ๆ คือ ปลาตาเดียวทอด ใส่น้ำมันมะกอกและเนย ราดด้วยน้ำสลัดที่มีผักชีลาวกับมะนาวอยู่ด้วย กินแบบนั้นเลยครับ ไม่ต้องกินกับข้าว ไม่ต้องกินกับอะไรเลย อร่อยเหลือเกิน ตามมาด้วย ปลาสแนป เปอร์ทอดเสิร์ฟกับสตูผัก จานนี้ยิ่งดีใหญ่เลยครับ น้อง ผมก็กินปลา ผมชอบสตูผัก เพราะว่าสตูผักอร่อยมาก มี ผัดผักเสิร์ฟกับผักโขมผัด มีเบคอนชิ้นหนา ๆ มีพริกทอดคล้าย ๆ ชิโชโมะของญี่ปุ่น เอาไปทอดหรือย่างก็ไม่ทราบ ผมคิดว่าน่าจะทอดแล้วก็โรยด้วยเกลือสมุทรนะครับ

มี สตูน่องแกะ มี สตูผัก เสิร์ฟกับไข่ดาว ไข่ดาวหน้าตาเหมือนไข่ดาวไทย เขาใช้ไข่เป็ดด้วยนะครับ มี หมูแฮมพิเศษจากสเปน ซึ่งเป็นหมูแฮมที่เขาเฉือนแล้วก็แล่ อยู่ตรงนั้นเลย ราคาแพงมากครับ แล้วยังมี หอยมีดโกนฝรั่งอบเนย หอยแมลงภู่ลวกกับไวน์และเนย มี กุ้งทอด ขาหมูแฮม ที่อยู่ในเครื่องสำหรับหั่น มี เนื้อกวางอบกับผักเปรี้ยวหวาน วันนั้นไม่รู้ผม จะพูดว่าอย่างไร ผมกินเข้าไปแล้ว ต้องบอกว่าเกือบตายครับ เพราะอาหารอร่อยเหลือเกิน ผมจึงกินเข้าไปมาก

อย่าลืมไปลองเบียร์ของ สเปนที่ร้านนี้ด้วยนะครับ แล้วก็ต้องลอง ปลาแองโชวี่ย่าง ที่เขาเอาปลาสด ๆ ไปย่าง มาให้เรากิน รวมทั้งยังมีอาหารอีกหลายอย่าง แต่ว่าเราต้องพูดคุยกับเขานะครับเมื่อเราไปถึงว่าวันนี้อาหารพิเศษมีอะไรบ้าง ซึ่งที่ผมสั่ง คือ อาหารพิเศษทั้งนั้นเลยนะครับ เพราะว่าเขาจะมีบอกว่าวันนี้มีอะไรสดบ้าง เช่น มีปลาสด มีกุ้งสด

กินอาหารที่ร้านนี้แล้วคุ้มนะครับ อร่อยครับ ผมคิดว่าถ้าเทียบกับมาตรฐานของ อังกฤษ ราคาอาหารของที่ร้าน นี้ก็ไม่แพงมากนัก อยู่ที่เรา จะกินมากหรือกินน้อยเท่านั้น ไปกันเป็นคู่จะดีมากครับจะได้ช่วยกันแชร์ ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสได้ไปที่ลอนดอนอย่าลืมแวะไปทานอาหารที่ร้านนี้ดู อร่อยจริง ๆ ครับ.

ที่อยู่ : 54 ฟริธ สตรีท โซโห ลอนดอน, W1D 4SL
เบอร์โทรศัพท์ : +44 (0) 207-813-8016
เวลาเปิด : วันจันทร์-วันศุกร์
12.00-15.00 น. และ 17.00-23.00 น.
วันอาทิตย์ 13.00-15.30 น. และ 17.30-22.30 น.
เว็บไซต์ : www.barrafina.co.uk
อีเมล : info@barrafina.co.uk

เข้าครัวกับหมึกแดง : กุ้งนึ่งเต้าซี่ทรงเครื่อง

เครื่องปรุง

- กุ้งก้ามกรามผ่าหลัง 5 ตัว เอาไส้ดำออก

วิธีทำ

1.ในภาชนะที่เข้าไมโครเวฟได้ ใส่กุ้ง ก้ามกรามที่เตรียมไว้ แล้วปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร

2.นำเข้าไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 2 นาที แล้วกดปุ่มสตาร์ท

3.พอสุก ตักใส่จานเสิร์ฟ พักไว้

เครื่องปรุงเต้าซี่ทรงเครื่อง
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- เต้าซี่แช่น้ำ 2-3 น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
- หมูสับ 100 กรัม
- เต้าหู้นิ่มหั่นเต๋าเล็ก 100 กรัม
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
- ผงปรุงรส รสหมู 1 ช้อนชา
- แป้งมันผสมน้ำ พอประมาณ
- เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
- เห็ดฟางหั่นเต๋า 50 กรัม
- พริกไทย สำหรับแต่งหน้า

วิธีทำ

1.นำกระทะตั้งไฟ พอร้อนใส่น้ำมันพืช ขิงสับ กระเทียมสับ เต้าซี่ ผัดพอหอม ใส่หมูสับลงผัดพอสุก แล้วใส่เห็ดฟาง และเต้าหู้หั่นเต๋า เหล้าจีน ผัดให้เข้ากัน
2.เติมน้ำเปล่า แล้วเร่งไฟให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ผงปรุงรส รสหมู คนให้เข้ากัน ชิมรสให้ออก เค็ม หวาน แล้วเติมแป้งมันผสมน้ำลงผัด คนให้เข้ากัน จนกระทั่งตัวซอสข้น
3.ตักซอสที่ได้ราดบนกุ้งที่เตรียมไว้ แล้วแต่งหน้าด้วยพริกไทย เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ.





ที่มา : เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น